รีวิว 127 Hours 127 ชั่วโมง (2010)

127 Hours 127 ชั่วโมง (2010)

Country: United Kingdom / United States

เรื่องย่อ

127 Hours เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าชีวประวัติที่สร้างจากเรื่องจริงของ Aron Ralston
นักปีนเขาหนุ่มผู้ชื่นชอบการผจญภัยตามลำพัง เขาออกเดินทางสู่หุบเขา Blue John Canyon
ในรัฐยูทาห์ โดยไม่ได้บอกใครว่าจะไปที่ไหน แต่แล้วอุบัติเหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น —
ก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาทับแขนขวาของเขาจนติดอยู่ในช่องหินแคบ ๆ
ไม่มีสัญญาณ ไม่มีคนรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่น และไม่มีทางหนี
เวลาผ่านไปทีละชั่วโมง ทีละวัน เขาต้องต่อสู้กับความหิว ความกระหาย และความสิ้นหวัง
ก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าคิด เพื่อเอาชีวิตรอดกลับมา

รีวิว (ไม่สปอยล์)

ผลงานกำกับโดย Danny Boyle (จาก Slumdog Millionaire)
ที่ตีความเรื่องจริงของ Aron Ralston ออกมาได้ทั้งทรงพลังและสะเทือนใจ
หนังเล่าเรื่องด้วยความกระชับแต่เข้มข้น ใช้เวลาเกือบทั้งเรื่องอยู่ในช่องหินแคบ ๆ
แต่กลับไม่รู้สึกน่าเบื่อแม้แต่นาทีเดียว
เพราะ Boyle ใช้เทคนิคการตัดต่อ ภาพมุมแคบ และเสียงดนตรีของ A.R. Rahman
สร้างอารมณ์กดดันและสะเทือนใจอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการแสดงของ James Franco
ที่แทบจะเล่นอยู่คนเดียวตลอดทั้งเรื่อง เขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ตั้งแต่ความมั่นใจ ความหวาดกลัว
จนถึงความสิ้นหวังได้อย่างสมจริงสุดขั้ว ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในหินก้อนนั้นด้วย
นอกจากนี้ หนังยังสอดแทรกภาพความทรงจำและจินตนาการที่ช่วยให้เราเข้าใจจิตใจของ Aron
ว่าทำไมเขาถึงยังสู้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังที่สุดในชีวิต

สปอยล์เต็ม (โครงเรื่องเชิงลึก)

Aron Ralston (James Franco) ออกเดินทางสู่ทะเลทรายเพียงลำพัง
ระหว่างปีนลงไปในรอยแยกของหุบเขา ก้อนหินขนาดใหญ่หล่นมาทับแขนขวา
เขาพยายามขยับแต่ไม่สำเร็จ — แขนถูกบีบแน่นอยู่ระหว่างหินกับผนัง
เขามีน้ำเพียงขวดเดียวและอาหารเล็กน้อย
วันแล้ววันเล่า เขาบันทึกวิดีโอสารภาพความรู้สึกต่อครอบครัว
พูดคุยกับตัวเอง ร้องเพลง หัวเราะ และร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
ภาพหลอนและความฝันของคนรักเก่าเริ่มปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเวลาผ่านไปถึงวันที่ห้า เขารู้ว่าหากไม่ทำอะไร เขาจะตายแน่
Aron จึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าคิด — เขาใช้มีดพกธรรมดาตัดแขนตัวเองเพื่อให้หลุดจากก้อนหิน
ฉากนี้คือหนึ่งในฉากที่ “จริงและโหดที่สุด” ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยพลังแห่งการมีชีวิต
หลังจากหลุดออกมาได้ เขาปีนขึ้นจากหุบเขา เดินออกสู่แสงแดด และพบครอบครัวนักท่องเที่ยวที่ช่วยแจ้งหน่วยกู้ภัย
หนังจบด้วยภาพจริงของ Aron Ralston ตัวจริง ที่ยังคงปีนเขาต่อไปแม้จะสูญเสียแขนข้างหนึ่ง

วิเคราะห์และสัญลักษณ์

  • ก้อนหิน: สัญลักษณ์ของ “ข้อจำกัด” และ “ความท้าทาย” ในชีวิต ที่เราทุกคนต้องเผชิญไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
  • ช่องหินแคบ: เปรียบเหมือนการขังตัวเองในความโดดเดี่ยวและความเย่อหยิ่งของ Aron ก่อนจะเรียนรู้ที่จะขอความช่วยเหลือ
  • การตัดแขน: การตัดสินใจสละบางสิ่งเพื่อได้ “ชีวิตใหม่” เป็นการปลดปล่อยทั้งทางกายและใจ
  • แสงอาทิตย์: แทนความหวังและอิสรภาพ ที่รออยู่หลังจากผ่านความมืดมิดที่สุดในชีวิต

งานสร้างและเทคนิค

Danny Boyle ใช้เทคนิคภาพแบบกล้องสองมุมและการตัดต่อสลับเร็วเพื่อสร้างพลังให้กับเรื่องราวที่มีสถานที่เดียว
การออกแบบเสียงและดนตรีโดย A.R. Rahman ช่วยให้ฉากแต่ละฉากมีอารมณ์หลากหลาย
ตั้งแต่ความตื่นเต้นจนถึงความเงียบงันของความสิ้นหวัง
หนังยังใช้ภาพจริงจากสถานที่เกิดเหตุจริงใน Utah เพื่อให้ความรู้สึกสมจริงที่สุด
การถ่ายภาพของ Anthony Dod Mantle สวยงามและสื่อถึงการต่อสู้ของมนุษย์กับธรรมชาติอย่างทรงพลัง

ทำไมต้องดู

  1. สร้างจากเรื่องจริงสุดระทึกที่ทั้งสะเทือนใจและสร้างแรงบันดาลใจ
  2. การแสดงของ James Franco สมจริงจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
  3. เป็นหนังที่เตือนให้เรารู้ค่าของชีวิตและความหวัง แม้ในสถานการณ์สิ้นหวังที่สุด

ข้อมูลภาพยนตร์

  • ผู้กำกับ: Danny Boyle
  • เขียนบท: Danny Boyle, Simon Beaufoy
  • นำแสดง: James Franco, Amber Tamblyn, Kate Mara, Clemence Poesy
  • แนว: Biography / Drama / Adventure
  • ความยาว: 94 นาที
  • IMDb: https://www.imdb.com/title/tt1542344/

ตัวอย่างหนังจาก YouTube

บทวิจารณ์สั้น

127 Hours ไม่ใช่เพียงหนังเอาชีวิตรอด แต่คือ “หนังว่าด้วยพลังของชีวิต”
มันทั้งสะเทือนใจ เจ็บปวด และให้แรงบันดาลใจอย่างมหาศาล
เมื่อดูจบ คุณจะรู้สึกขอบคุณในทุกลมหายใจ และเข้าใจว่ามนุษย์สามารถทำได้ทุกอย่าง
เมื่อยังมี “ความหวัง” อยู่ในใจ

 

Author: komti

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *