รีวิว The Wolf of Wall Street (2013) – คนจะรวย ช่วยไม่ได้

เรื่องจริงสุดบ้าคลั่งของ Jordan Belfort (รับบทโดย Leonardo DiCaprio) นายหน้าหุ้นในนิวยอร์กที่พลิกจากชายธรรมดาไปสู่ชีวิต “วอลล์สตรีท” ที่ไม่หยุดหย่อน—โดยผู้กำกับระดับตำนาน Martin Scorsese

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ผู้กำกับ: Martin Scorsese
  • นักแสดงนำ: Leonardo DiCaprio, Jonah Hill, Margot Robbie, Matthew McConaughey
  • ปีฉาย: 2013
  • ความยาว: ประมาณ 180 นาที
  • คะแนน IMDb: 8.2 / 10

เรื่องย่อ (ไม่สปอยล์หนัก)

The Wolf of Wall Street เล่าเรื่องของ Jordan Belfort ที่เริ่มต้นทำงานที่วอลล์สตรีทในช่วงปลายยุค 80 ก่อนที่จะถูกปลุกเร้าโดยวัฒนธรรมการเงินและการขายจนก้าวสู่ตำแหน่งผู้ก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ที่เต็มไปด้วยการโกงหุ้น, เครื่องดื่ม,ยาสูบ,ปาร์ตี้ และสิ่งที่ดู “รวยเร็ว” ทุกอย่างแลกมาด้วยความเสี่ยงอันใหญ่หลวง.

สปอยล์เนื้อเรื่องแบบเต็ม

Jordan เริ่มต้นในบริษัท L.F. Rothschild สอนโดย Mark Hanna (Matthew McConaughey) ที่แนะนำให้เขาใช้ชีวิตแบบ “ทำเงินแล้วสนุก” หลังจากวิกฤต Black Monday เขาถูกปลดและก้าวมาทำงานกับบริษัทโบรกเกอร์เล็กก่อนก่อตั้ง Stratton Oakmont กับ Donnie Azoff (Jonah Hill) และเพื่อน ๆ.

บริษัท Stratton Oakmont เริ่มปั๊มหุ้น (pump-and-dump) และธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว Jordan กับ Donnie ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย มีเรือยอทช์ ดารา ภาพเปลือย เครื่องดื่ม และยาที่หลากหลาย หมุนเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์.

แต่เมื่อสำนักงาน SEC และ FBI เริ่มจับตา Jordan การใช้ชีวิตที่เกินพิกัดเริ่มส่งผลร้าย: รอบหนึ่ง Jordan และ Donnie กิน quaaludes จนเกือบเสียชีวิต, เรือนยอทช์จม, และธุรกิจเริ่มพัง. สุดท้าย Jordan โดนจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 22 เดือนหลังรับสารภาพเกี่ยวกับการฟอกเงินและโกงหุ้น.

ในตอนท้าย Jordan กลับมาเป็นผู้บรรยายการขาย และมีฉากจริงของเขาขึ้นจอปิดท้าย หนังสรุปว่ายังมีคนที่อยาก “รวยเร็ว” เหมือนเขา แม้ผลลัพธ์จะเป็นความล่มสลาย.

บทวิจารณ์ : อะไรเวิร์ก อะไรอาจแผ่ว

จุดแข็ง

  • การแสดงของ Leonardo DiCaprio เข้มข้นและเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน เรียกรางวัลและคำชมมากมาย.
  • การกำกับของ Martin Scorsese ให้หนังเป็นทั้งคอเมดี้ ดราม่า สารคดีในคราวเดียว ทำให้ดูสนุกและลึกในเวลาเดียวกัน.
  • ธีมของ “โลภมาก รวยเร็ว ภัยร้าย” ถูกถ่ายทอดอย่างตรงและไม่มีกรอบจารีต ใช้สไตล์จัดเต็มทั้งภาพ เสียง และพลังงาน.

จุดสังเกต

  • บางคนวิจารณ์ว่าหนัง “เฉลิมฉลอง” ความโลภโดยไม่ลงโทษอย่างชัดเจน หรือย้ำว่าการรวยเร็วคือเป้าหมาย.
  • ความยาวกว่า 3 ชั่วโมงอาจทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกอึดอัด หรือมีช่วงที่เดินเรื่องช้าลง.

ตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube

ที่มา: YouTube – The Wolf of Wall Street Official Trailer

สรุป

โดยรวมแล้ว The Wolf of Wall Street คือภาพยนตร์ที่ทั้งสะท้อนและวิพากษ์วัฒนธรรมการเงินสุดโต่งในอเมริกา มันทำให้เราเห็นว่า “รวย” ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่เป็นเรื่องของจิตใจ การควบคุม และการตัดสินใจที่อาจนำไปสู่การล่มสลาย หากเลือกเส้นทางผิด. สำหรับผู้ชมที่พร้อมรับความจริงอันโหดร้ายและสนุกกับสไตล์หนังที่ไม่ยอมลดแรง หนังเรื่องนี้คือหนึ่งในนั้น.

Author: komti

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *