วงการข่าวสะเทือน! “พุทธ อภิวรรณ” โพสต์คอมเมนต์ใบ้ ปมผู้ประกาศข่าวสาย Outdoor หลังคลิปฉาวว่อนโซเชียล
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงข้ามคืน เมื่อชื่อของ “พุทธ อภิวรรณ” ผู้ประกาศข่าวชื่อดังและผู้บริหารฝ่ายข่าวของช่อง 8 โผล่คอมเมนต์ใต้โพสต์ข่าวเกี่ยวกับ “ผู้ประกาศข่าวชายใส่แว่น สาย Outdoor” ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
ประเด็นดังกล่าวเริ่มต้นจากเพจดังในโซเชียลออกมาเปิดเผยว่า มีผู้ประกาศข่าวชายคนหนึ่ง “มีพฤติกรรมจัดคลิปหลุดส่วนตัวแนว Outdoor และเปิดกลุ่มลับเก็บเงิน” ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งในเรื่อง จริยธรรมของสื่อ และ ความเหมาะสมในฐานะคนทำข่าว
ในขณะที่สังคมกำลังคาดเดากันสนั่นว่า “ผู้ประกาศคนดังกล่าวคือใคร” — จู่ ๆ พุทธ อภิวรรณ ก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์นั้น พร้อมข้อความที่ชาวเน็ตมองว่า “เหมือนใบ้แรง” จนกลายเป็นไฟลุกในคอมเมนต์
พุทธเคลื่อนไหวใต้โพสต์ดัง — “ไม่ผิดที่ชอบแบบนั้น แต่ผิดที่เปิดกลุ่มลับเก็บเงิน!”
จากโพสต์ต้นเรื่องของเพจบันเทิงชื่อดัง พุทธได้เข้าไปคอมเมนต์ว่า
“เขาไม่ผิดถ้าชอบแบบนั้น มันคือรสนิยมส่วนตัว
แต่ที่ผิดคือเปิดกลุ่มลับเก็บเงิน มันผิดเต็ม ๆ !!!”
เพียงไม่กี่นาที คอมเมนต์ดังกล่าวก็มียอดถูกใจและแชร์กระหน่ำ มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเขา หลายคนชื่นชมว่าพุทธกล้าที่จะพูดเรื่องที่คนในวงการมักเลี่ยง แต่บางคนกลับมองว่า “พูดเหมือนใบ้ตัวคนจริง” เพราะในคอมเมนต์ต่อมา เขายังเขียนต่ออีกว่า
“ถ้าใช่คนนั้น… อดีตคือน้องที่เคยทำงานกับพี่เลย บอกได้แค่นี้จ้า”
ประโยคสั้น ๆ แต่มีกลิ่นของการเปิดเผยเบาะแส ทำให้โลกโซเชียลเดือดขึ้นทันที ชาวเน็ตจำนวนมากพยายามคาดเดาว่า “ผู้ประกาศสาย Outdoor” ที่พุทธพูดถึงคือใคร
“พี่ไม่ว่างขึ้นศาลจ้า!” — คำตอบติดตลกที่จุดเทรนด์ #พุทธอภิวรรณ
เมื่อมีคนถามตรง ๆ ว่า “พี่หมายถึงใครในข่าว?” พุทธตอบกลับสั้น ๆ ว่า
“พี่ไม่ว่างขึ้นศาลจ้า 555”
คำตอบติดตลกแต่แฝงความหมายนี้ ทำให้ชื่อของเขาขึ้นเทรนด์บน X (Twitter) ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง โดยแฮชแท็ก #พุทธอภิวรรณ และ #สายOutdoor กลายเป็นคำค้นยอดนิยมทันที
หลายคนมองว่าพุทธเป็น “ผู้ประกาศข่าวสายตรงไปตรงมา” ที่มักพูดสิ่งที่คนอื่นกลัวจะพูด ในขณะที่อีกกลุ่มมองว่า “การให้เบาะแสแบบนี้อาจสร้างผลกระทบต่อผู้อื่น” หากยังไม่มีการยืนยันจากหน่วยงานหรือเจ้าตัวในข่าว
เบื้องหลังปม “ผู้ประกาศข่าวสาย Outdoor” คือใคร?
ต้นตอของข่าวนี้เริ่มจากเพจบันเทิงรายหนึ่งที่โพสต์คลิปหลุดเบลอ ๆ พร้อมข้อความว่า
“ผู้ประกาศข่าวชายชื่อดัง สาย Outdoor เปิดกลุ่มลับเก็บเงิน คอนเทนต์เด็ดเกินคนข่าว”
โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อกว่าหมื่นครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง และมีคอมเมนต์จำนวนมากพยายามโยงชื่อผู้ประกาศหลายคนในวงการข่าว บางรายถึงขั้นโดนลากชื่อไปโดยไม่มีหลักฐาน
ต่อมามีผู้ใช้บางรายอ้างว่าตนเคยเห็นกลุ่มลับนั้นจริง และมี “ลิงก์ชวนสมัคร” ผ่านช่องทาง Telegram โดยใช้ชื่อคล้ายกับเพจข่าว ซึ่งยิ่งทำให้กระแสไวรัลแรงขึ้นกว่าเดิม
เสียงจากคนข่าว – “นี่คือจุดอ่อนไหวของวงการสื่อยุคใหม่”
นักข่าวและผู้ประกาศข่าวหลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นต่อประเด็นนี้ โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า
แม้ “รสนิยมส่วนตัว” จะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ในฐานะคนทำข่าว ซึ่งถือเป็น “บุคคลสาธารณะ” จำเป็นต้องรักษามาตรฐานทางจริยธรรมและภาพลักษณ์ให้เหมาะสม
“นักข่าวก็เป็นมนุษย์ แต่เมื่ออยู่ในอาชีพที่ต้องเสนอความจริงให้สังคม
ความโปร่งใสและภาพลักษณ์ย่อมเป็นเรื่องสำคัญ”
— ผู้ประกาศข่าวรุ่นพี่รายหนึ่งให้สัมภาษณ์
โซเชียลสองขั้ว — บางส่วนชมพุทธ “กล้าพูด”, บางส่วนเตือน “อย่าใบ้แรง”
บนแพลตฟอร์ม X และ Facebook เกิดกระแสสองขั้วอย่างชัดเจน
ฝ่ายหนึ่งชื่นชมพุทธว่าเป็น “คนข่าวตัวจริงที่กล้าพูดเรื่องจริยธรรมในวงการ”
อีกฝ่ายกลับมองว่า “พูดแบบนี้เหมือนใบ้ชื่อคน” ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ผู้ที่ยังไม่ถูกระบุแน่ชัด
“เราชอบที่พุทธพูดตรงนะ มันสะท้อนปัญหาจริงในวงการ” — ความเห็นหนึ่งกล่าว
“แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐาน จะใบ้ขนาดนี้ไม่เสี่ยงเหรอ?” — อีกความเห็นโต้กลับ
เมื่อ “รสนิยมส่วนตัว” กลายเป็นประเด็นสาธารณะ
กรณีนี้สะท้อนชัดว่าเส้นแบ่งระหว่าง “ชีวิตส่วนตัว” และ “หน้าที่สาธารณะ” ในยุคโซเชียลนั้นบางลงทุกที
โดยเฉพาะในอาชีพที่อยู่หน้ากล้องและมีภาพลักษณ์ต่อสาธารณะอย่างผู้ประกาศข่าว
นักจิตวิทยาออนไลน์ให้ความเห็นว่า ดราม่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เกิดขึ้นซ้ำเพราะสังคมไทยยังไม่แยกแยะระหว่าง “สิทธิส่วนบุคคล” และ “ความเหมาะสมเชิงวิชาชีพ” ได้อย่างชัดเจน
พุทธยังคงนิ่ง – ไม่ลบคอมเมนต์แม้ดราม่าระอุ
แม้กระแสดราม่าจะร้อนแรง แต่จนถึงตอนนี้ พุทธยังไม่ได้ลบคอมเมนต์ใด ๆ ออกจากโพสต์ และไม่ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งทำให้หลายคนชื่นชมในความมั่นใจของเขา ขณะเดียวกันก็มีคนจับตาว่า สื่ออื่น ๆ จะรายงานต่อหรือไม่
แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า พุทธตั้งใจแสดงความเห็นในเชิง “จรรยาบรรณคนข่าว” มากกว่าจะโจมตีบุคคลใด แต่ยอมรับว่า “รู้จักคนในข่าวจริง” จึงกลายเป็นเหตุให้คอมเมนต์ของเขาได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
วิเคราะห์ผลกระทบ – วงการข่าวในยุคดิจิทัลกำลังเปลี่ยน
ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อสารมวลชนให้ความเห็นว่า กรณีนี้เป็น “ตัวอย่างชัด” ของการที่สื่อและบุคคลสาธารณะไม่สามารถแยกตัวออกจากโลกออนไลน์ได้อีกต่อไป
เมื่อทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวในโซเชียล แต่สิ่งที่โพสต์อาจถูกตีความเป็น “ภาพลักษณ์ของสื่อ” ทันที
“ยุคนี้ไม่มีคำว่าออฟไลน์สำหรับคนข่าว
ทุกโพสต์คือข่าว ทุกคอมเมนต์คือการสื่อสารกับสังคม”
— ดร.สุธิดา ศรีสมบัติ นักวิชาการด้านสื่อ กล่าว
ชาวเน็ตขุดต่อ! ลือแรงว่าเจ้าตัวในข่าวเตรียมหายจากหน้าจอ
หลังพุทธออกมาใบ้ สังคมออนไลน์ยังไม่หยุดขุด ล่าสุดมีบางโพสต์อ้างว่า “ผู้ประกาศข่าวชายสาย Outdoor” รายดังกล่าวได้หายหน้าออกจากรายการชั่วคราว เพื่อหลบกระแสดราม่า
แต่ยังไม่มีการยืนยันจากช่องต้นสังกัด
หลายคนจึงตั้งคำถามว่า “การที่คนข่าวต้องหลบเพราะเรื่องส่วนตัวสะท้อนอะไร?” และ “วงการข่าวไทยจะมีมาตรฐานใหม่หลังจากนี้หรือไม่?”
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
1. พุทธ อภิวรรณ คอมเมนต์เรื่องอะไร?
– เขาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ที่พาดพิง “ผู้ประกาศข่าวสาย Outdoor” โดยพูดถึงประเด็นจริยธรรมและการเปิดกลุ่มลับเก็บเงิน
2. ทำไมถึงกลายเป็นดราม่าใหญ่?
– เพราะข้อความของพุทธถูกมองว่า “ใบ้ตัวจริง” และเชื่อมโยงกับคนในวงการจริง ๆ
3. พุทธผิดหรือไม่ที่แสดงความคิดเห็นแบบนั้น?
– ไม่ผิดตามกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของ “มารยาททางสื่อ” ที่บางฝ่ายมองว่าอาจเกินขอบเขต
4. เจ้าตัวในข่าวคือใคร?
– ยังไม่มีการเปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
5. โซเชียลมีท่าทีอย่างไร?
– แบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งชื่นชมพุทธว่ากล้าพูดความจริง อีกฝ่ายมองว่าไม่ควรใบ้ชื่อคน
6. เรื่องนี้สะท้อนอะไรกับวงการข่าว?
– ว่าสื่อมวลชนยุคใหม่ต้องรักษาภาพลักษณ์ทั้งในหน้าจอและออนไลน์ เพราะทุกอย่างถูกจับตามอง

